วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

สงครามครูเสด ตอนที่ 1

ความจริงที่ถกเถียงกัน มานานหลายศตวรรษ จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ ผู้สถาปนาศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิก ภายหลังก็เกิดลัทธิความเชื่อทางศาสนาที่แปลกแยกนิกายออกไปจากองค์ศาสนานิกายหลัก คือ โรมันคาทอลิก ความจริงนี้ ทำให้ชาวคริสต์ต่าง ๆ เชื่อในสิ่งที่คริสตจักรได้สั่งสอนกันมาอย่างยาวนานไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในบางครั้งคริสตจักรต้องต่อต้านเหล่าผู้ที่คัดค้านคำสอน คริสต์จักรได้ใช้วิธีการรุนแรงเพื่อพิทักษ์ปกป้องความเชื่อทางศาสนาในยุคกลางนั้น ศาสนาที่มีอิทธิพลมาก ที่สุดคือ คริสต์จักรโรมันนิกายโรมันคาทอลิก องค์สังฆราชหรือองค์พระสันตะปาปา เป็นผู้ปกครองคริสต์นิกายนี้ด้วย และก็ไม่ยอมให้แตกแนวออกไป ต่อมา ก็เกิดนิกายใหม่ คือ นิกาย โปรแตสแตนส์ ปัจจุบันก็มีผู้นับถือมากเช่นกัน ในช่วงแรกก่อตั้งนั้น มีการต่อต้านจากนิกายหลัก คือ โรมันคาทอลิคกับพยายามกล่าวหาว่าผู้ที่นับถือนิกายโปรเตสแตนส์ เป็นพวก “นอกรีต” การกำจัด พวกนอกรีต ทำให้เกิดสงคราม ครูเสด ครั้งที่เรียกว่า “อัลไบเจนเซียนครูเสด(Albigensian Crusade)” เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1209 ครั้งนั้น พระสัตะปาปา อินโนเซนต์ที่ 3 ผู้ทรงอิทธิพล สั่งเหล่านักรบครูเสด ทำการกวาดล้าง ชาวเมือง อัลไบ (Albi) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แคว้น อากุยแตน เพราะชาวบ้านเหล่านี้เชื่อในศาสนาที่แยกออกไป ชาวอัลไบเจนเซียน เหล่านี้ก็เป็น่ชาวคริสต์เช่นกัน แต่มีความเชื่อในศาสนานิกายที่เกิดขึ้นใหม่ ขณะนั้นเรียกว่า คาธาร์ส (Cathers) มีคำสอนที่ผิดแผกออกไปจากนิกายโรมันคาทอลิก จนถึงปฏิเสธ ความเชื่อในแบบคาทอลิค ด้วยคำว่า ครูเสด หมายถึง สงครามที่พวกคริสเตียนได้กระทำต่อมุสลิม เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1099 เป็นต้นมา เป็นเวลา 150 ปี เพื่อกู้ศาสนาต่าง ๆ ของคริสต์จักร ที่เมือง เบธเลเฮม และเยรูซาเลม โดยมีพวกที่มีเครื่องหมายกางเขนติดไว้ ครูเสด แปลว่า ติดด้วยเครื่องหมายกางเขน จะเป็นที่อกหรือที่ใดก็ตาม ต่อมาใช้หมายถึงสงคราม ทั่ว ๆ ไปที่พวกคริสต์ต่อต้านพวกนอกศาสนา ตามแต่ สังฆนายก (bishop)ของโรมันจะบัญชาว่าเป็นศัตรูของคริสต์จักร ชาวนิยาย คาธาร์ส เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีจิตวิญญาณสิงสู่ทั้งด้านดีและด้านร้าย แม้แต่พระเจ้าผู้สร้างโลก หรือพระเยซู เช่น มีความโลภ ในการปล่อยน้ำท่วมโลก ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้นิกายคาธาร์ส มีพิธีกรรมทีสังเวยทั้งความดีและความชั่วคู่กัน มีทั้งเทพเจ้าที่ดีและเทพเจ้าที่ร้าย แบบลัทธิ “เพกัน”Pope Innocent IIIทำให้พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ถือโอกาสผู้ที่นับถือนิกาย คาธาร์ส ทั้งหมดนี้เป็นพวกนอกรีต เป็นอันตรายต่อศาสนา จึงต้องถูกกำจัดและกวาดล้าง ทำสงครามครูเสดขึ้น ถึงกับฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันเลยทีเดียว แม้กระทั่งผู้หญิง เด็ก และคนแก่ การกวาดล้าง ของ นิกายโรมันคาทอลิคนั้น รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งอิทธิพลและความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงอำนาจการปกครองบ้านเมือง หรือสถาบันกษัตริย์ และขุนนางอีกด้วย ศาสนจักรมีกองทัพนักรบเป็นของตนเองภายหลัง จากสงครามครูเสด ผ่านพ้นไป อำนาจของศาสนจักรก็ยิ่งเพิ่มพูน เข้มแข็งขึ้น ไม่มีผู้ใดกล้าต่อรองแม้แต่กษัตริย์ หรือผ่ายการเมืองการปกครองก็ตาม ทำให้คริสจักรมีอำนาจ เป็นเวลาหลายศตวรรษ คริสตจักรโรมันคาทอลิกที่กระทำต่อกลุ่มคนหนึ่งจนเป็นปริศนาท้าทายการสืบค้นมาจนทุกวันนี้ คือการกำจัดเหล่าอัศวินนักรบ จากสงครามครูเสด ที่เรียกตนเองกว่า “ไนต์ส เทมปลาร์ (Knights Templar)” หรือในนาม อัศวินแห่งวิหารโซโลมอน (Knights of Temple of Solomon)” กลุ่มคนเหล่านี้เกิดขึ้น หลังจากชัยชนะในสงครามครูเสด ครั้งแรกใน ค.ศ. 1099 และแตกกระจายออกไปทั่วยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะฝรั่งเศส อัศวินกลุ่มนี้แตกขยายเครือข่ายและเติบโตสร้างอิทธิพลมากขึ้น ๆ ไม่เพียงแค่อิทธิพลเท่านั้น พวกเขามีทรัพย์สินเงินทอง จนเป็นเศรษฐีด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นนายทุนให้กับเหล่า เจ้าชาย ขุนนาง นักปกครอง แม้แต่กษัตริย์ บางพระองค์ยังต้องรับการช่วยเหลือทางการเงินจากอัศวินกลุ่มนี้ จนทำให้เกิด ระบบ “ธนาคาร” ขึ้นเป็นครั้งแรกในยุโรปสิ่งที่เป็นปริศนาคือ อัศวินไนต์ เทปปลาร์ เหล่านี้ร่ำมรวยขึ้นมาได้อย่างไร? สมาชิกเหล่านี้ไม่ปรากฏว่าสืบเชื้อสายจากวงศืตระกูลเศรษฐีมาก่อน จนมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาพบสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตหลังจาก ชนะสงครามครูเสด และเข้ายึด กรุงเยรูซาเลมมาจากชาวมุสลิมได้ จนทำให้มีอำนาจการต่อรองกับคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทำให้อัศวินกลุ่มนี้มีสิทธิพิเศษ มากมายแต่ในปี 1307 ฝ่ายคริสตจักรได้ร่วมมือกับฝ่ายปกครองได้วางแผนการกำจัดเหล่าอัศวินกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก และไม่ต้องการให้อัศวินกลุ่มนี้ใช้ “บางสิ่งบางอย่าง” ต่อรองกับคริสต์จักร เหล่า อัศวินนักรบ (Knights templar) ถูกวางแผนให้กำจัดหมดสิ้นทั่วแผ่นดิน โดยอ้างว่า มีความเป็นภัยต่อคริสต์ศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น